ปัญหาอย่างหนึ่งของนักสะสมของเก่าก็คือหลายๆ ครั้งนักสะสมของเก่าถ้าหากว่าไม่ได้ใช้การสังเกตมากพอหรือว่าไม่ได้พิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วนก็อาจจะโดนย้อมแมวหรือโดนหลอกให้ซื้อของเก๊ที่ไม่ใช่สิ่งของนั้นๆ จริงก็เป็นได้ นี่จึงทำให้นักสะสมของเก่าหลายคนหากว่าต้องการจะซื้อของเก่าสักชิ้นหนึ่งแล้วมีความต้องการอยากได้สิ่งของชิ้นนั้นๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ควรที่จะต้องรู้วิธีหรือรู้เทคนิคเพื่อที่จะดูว่าของชิ้นนั้นเป็นของแท้แน่นอน 100% ซึ่งของเก่าแต่ละชนิดก็จะมีวิธีสังเกตหรือเทคนิคการดูที่ไม่เหมือนกัน
ลองมาดูเทคนิคพื้นฐานง่ายๆ สำหรับนักสะสมของเก่าว่าควรจะดูอย่างไรบ้างเพื่อไม่ให้โดนหลอกซื้อ ควรศึกษารายละเอียดของเก่าชนิดนั้นๆ ให้ดีก่อน – ก่อนที่คุณจะทำการเลือกซื้อของเก่าชนิดไหนก็แล้วแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือคุณจำเป็นจะต้องรู้รายละเอียดต่างๆ ของสิ่งของชิ้นนั้นให้ดี อาทิ ถ้าเป็นของแท้จะต้องมีรอยตรงไหน ประวัติคร่าวๆ เป็นอย่างไร หรือราคาในตลาดจริงๆ อยู่ที่เท่าไหร่เพื่อที่ว่าเราจะได้สังเกตและสอบถามได้ว่ามันจริงแท้แค่ไหน ลองตั้งคำถามกับคนขายดู – การที่คนขายของเก่าหรือของโบราณจะเลือกสินค้าตัวไหนมาขายก็แล้วแต่เขาจำเป็นจะต้องทำการบ้านมาบ้างว่าสิ่งของชิ้นนั้นมี
ประวัติความเป็นมาหรือมีจุดสังเกตอะไรที่ไม่เหมือนของปลอม เราก็เพียงลองตั้งคำถามดูแล้วรอฟังคำตอบว่าคนขายนั้นมีความรู้ในสิ่งของชิ้นนี้มากแค่ไหน ยิ่งถ้าหากเป็นของแท้จริงๆ คนขายยิ่งจำเป็นจะต้องมีความรู้เป็นพิเศษเพื่อคอยนำเสนอให้ลูกค้าเชื่อถือ ใช้อุปกรณ์ช่วยในการตรวจสอบ – ของโบราณบางอย่างหากดูด้วยตาเปล่าอาจจะไม่สามารถมองจุดที่เอาไว้ใช้สังเกตได้ว่านี่เป็นของจริงหรือไม่ จึงจำเป็นที่จะต้องมีตัวช่วยในการเอาไว้สังเกต อาทิ แว่นขยาย น้ำยาเช็ด หรืออื่นๆ ตามแต่ว่าสิ่งของชิ้นนั้นๆ เป็นสิ่งของประเภทไหนและต้องใช้วิธีในการตรวจสอบอย่างไร พยายามสังเกตพฤติกรรมของคนขาย –
ส่วนมากแล้วถ้าหากว่าเป็นของแท้หรือของหายากคนขายมักจะไม่ค่อยง้อหรือไม่ค่อยสนใจลูกค้าที่เรื่องมากหรือจุกจิกถามนั่นนี่มากนัก แต่ถ้าหากว่าเป็นของปลอมหรือของทำเหมือนบ่อยครั้งที่คนขายมักจะเร่งรัดให้รีบซื้ออย่างออกนอกหน้า ซึ่งนั่นสันนิษฐานได้เลยว่ามันเป็นของปลอมแน่นอน เมื่อซื้อแล้วให้จับตาดูของเอาไว้ตลอด – ตรงนี้ก็ถือเป็นจุดเสี่ยงที่อาจจะโดนคนขายย้อมแมวได้เหมือนกันประเภทที่ว่าพอซื้อแล้วต้องเอาไปห่อหรือเอาไปแพ็คหลังร้านโดยที่ไม่ให้ผู้ซื้อเห็นแล้วก็ทำการสับเปลี่ยน ทางที่ดีเมื่อซื้อแล้วก็ควรที่จะขอดูสิ่งของนั้นทุกพื้นที่อย่าให้คลาดสายตาเป็นอันขาด
ลองมาดูเทคนิคพื้นฐานง่ายๆ สำหรับนักสะสมของเก่าว่าควรจะดูอย่างไรบ้างเพื่อไม่ให้โดนหลอกซื้อ ควรศึกษารายละเอียดของเก่าชนิดนั้นๆ ให้ดีก่อน – ก่อนที่คุณจะทำการเลือกซื้อของเก่าชนิดไหนก็แล้วแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือคุณจำเป็นจะต้องรู้รายละเอียดต่างๆ ของสิ่งของชิ้นนั้นให้ดี อาทิ ถ้าเป็นของแท้จะต้องมีรอยตรงไหน ประวัติคร่าวๆ เป็นอย่างไร หรือราคาในตลาดจริงๆ อยู่ที่เท่าไหร่เพื่อที่ว่าเราจะได้สังเกตและสอบถามได้ว่ามันจริงแท้แค่ไหน ลองตั้งคำถามกับคนขายดู – การที่คนขายของเก่าหรือของโบราณจะเลือกสินค้าตัวไหนมาขายก็แล้วแต่เขาจำเป็นจะต้องทำการบ้านมาบ้างว่าสิ่งของชิ้นนั้นมี
ประวัติความเป็นมาหรือมีจุดสังเกตอะไรที่ไม่เหมือนของปลอม เราก็เพียงลองตั้งคำถามดูแล้วรอฟังคำตอบว่าคนขายนั้นมีความรู้ในสิ่งของชิ้นนี้มากแค่ไหน ยิ่งถ้าหากเป็นของแท้จริงๆ คนขายยิ่งจำเป็นจะต้องมีความรู้เป็นพิเศษเพื่อคอยนำเสนอให้ลูกค้าเชื่อถือ ใช้อุปกรณ์ช่วยในการตรวจสอบ – ของโบราณบางอย่างหากดูด้วยตาเปล่าอาจจะไม่สามารถมองจุดที่เอาไว้ใช้สังเกตได้ว่านี่เป็นของจริงหรือไม่ จึงจำเป็นที่จะต้องมีตัวช่วยในการเอาไว้สังเกต อาทิ แว่นขยาย น้ำยาเช็ด หรืออื่นๆ ตามแต่ว่าสิ่งของชิ้นนั้นๆ เป็นสิ่งของประเภทไหนและต้องใช้วิธีในการตรวจสอบอย่างไร พยายามสังเกตพฤติกรรมของคนขาย –
ส่วนมากแล้วถ้าหากว่าเป็นของแท้หรือของหายากคนขายมักจะไม่ค่อยง้อหรือไม่ค่อยสนใจลูกค้าที่เรื่องมากหรือจุกจิกถามนั่นนี่มากนัก แต่ถ้าหากว่าเป็นของปลอมหรือของทำเหมือนบ่อยครั้งที่คนขายมักจะเร่งรัดให้รีบซื้ออย่างออกนอกหน้า ซึ่งนั่นสันนิษฐานได้เลยว่ามันเป็นของปลอมแน่นอน เมื่อซื้อแล้วให้จับตาดูของเอาไว้ตลอด – ตรงนี้ก็ถือเป็นจุดเสี่ยงที่อาจจะโดนคนขายย้อมแมวได้เหมือนกันประเภทที่ว่าพอซื้อแล้วต้องเอาไปห่อหรือเอาไปแพ็คหลังร้านโดยที่ไม่ให้ผู้ซื้อเห็นแล้วก็ทำการสับเปลี่ยน ทางที่ดีเมื่อซื้อแล้วก็ควรที่จะขอดูสิ่งของนั้นทุกพื้นที่อย่าให้คลาดสายตาเป็นอันขาด
